วันเสาร์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2561

[pasaangkit.com] May / Maybe

May be  กับMaybe ดูเผินๆเหมือนจะเป็นคำเดียวกันใช่มั้ยคะ ต่างกันแค่เว้นวรรคกับไม่เว้นวรรค ถึงความหมายมันจะเหมือนกันแต่จริงๆแล้วมันใช้แทนกันไม่ได้นะคะ
Maybe เป็นคำๆเดียว เราใช้คำว่า  maybeในความหมายว่า  อาจจะ  หรือ  บางที ซึ่งเป็น adverb เรามักเห็น maybe ขึ้นต้นประโยค ลองมาดูตัวอย่างประโยคกันค่ะ
  • Maybe it will rain soon. I have to hurry.
    บางทีฝนอาจจะตกเร็วๆนี้  ฉันต้องรีบแล้วแหละ
  • Maybe the flight is delayed. The weather is terrible.
  • บางทีเที่ยวบินอาจจะล่าช้า  สภาพอากาศมันแย่มาก
หรือบางทีอาจจะเจอ maybe อยู่ท้ายประโยคก็ได้ เช่น
  • A: There’s something wrong with my mobile phone. I can’t turn it on.
    โทรศัพท์มือถือฉันต้องเป็นอะไรสักอย่างแน่ๆ  เปิดไม่ได้เลย
  • B: It could be a virus, maybe.
    บางทีอาจจะเป็นไวรัสก็ได้นะ
มาดูทางฝั่งของ may beกันบ้าง   จะเห็นว่า  may be มีการแยกคำกัน  ซึ่งมันก็แยกออกเป็นสองส่วน  may เป็น modal verb ที่แปลว่า  “อาจจะ”  แล้ว be ล่ะ มายังไง   ในกรณีนี้ไม่ใช่ทุกครั้งที่มี may แล้วต้องมี be ตามเสมอ เพราะปกติ  may จะตามด้วยคำกริยารูปธรรมดาไม่ผันหรือที่เราเรียกว่า กริยา infinitive นั่นเอง  เช่น
  • She may move to Spain.
    เธออาจจะย้ายไปอยู่สเปน
  • They may not understand the lesson.
    พวกเขาอาจจะไม่เข้าใจบทเรียน
  • แต่  mayที่มี be จะต้องตามด้วย
                        may be + adjective (คำคุณศัพท์)
                        may be + noun (คำนาม)
    • This may be the last match that he plays for Real Madrid.
      นี่อาจจะเป็นการแข่งขันนัดสุดท้ายของเขาที่จะเล่นให้ทีมรีลมาดริด
    • They may be too tired to get up early tomorrow.
      พวกเขาอาจจะเหนื่อยเกินไปที่จะตื่นเช้าในวันพรุ่งนี้
    ** be ในที่นี้เป็น verb to be (is am are) นั่นเอง แต่เราจะใส่ is am are   ไปหลัง may เลยไม่ได้เพราะกฎของ modal verb มีอยู่ว่าต้องตามด้วยกริยา infinitive หรือ กริยารูปธรรมดาไม่ผัน และ be ก็คือรูปธรรมดา (base form) ของ is am are นั่นเองค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น